ลำดับเหตุการณ์เส้นทางแห่งความสำเร็จ
ที่สานต่อไม่หยุดยั้ง
ตลอดเวลามากกว่า 7 ทศวรรษของการอยู่เคียงข้างลูกค้า เซ็นทรัล รีเทล มีช่วงเวลามากมายที่นับได้ว่ามีส่วนในการผลักดันเราสู่ความสำเร็จในวันนี้ และนี่คือลำดับเหตุการณ์สำคัญที่ผ่านมาตลอดเส้นทางของเรา
- เปิดไทวัสดุ ร้านขายสินค้าเฉพาะทางแบบสแตนด์อโลนขนาดใหญ่แห่งแรก
- เปิดโรบินสัน ไลฟ์สไตล์ เซ็นเตอร์ แห่งแรกในจังหวัดตรัง ซึ่งเป็นรูปแบบธุรกิจที่มุ่งเน้นการขยายธุรกิจและเจาะตลาดในต่างจังหวัด
- เปิดตัวเว็บสโตร์แรกภายใต้ชื่อ www.central.co.th สำหรับห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล
- เปิดร้านขายสินค้าเฉพาะทางแห่งใหม่ ในชื่อบ้าน แอนด์ บียอนด์
เปิดตัวการให้บริการช่วยเหลือในการเลือกซื้อสินค้าแบบดิจิทัลบนแพลตฟอร์ม Omnichannel เช่น “Rinascente ON DEMAND” และ “Chat & Shop”
บริษัทฯ ได้เริ่มปรับโครงสร้างธุรกิจ เพื่อเป็นการเตรียม ความพร้อมสำหรับการออกและเสนอขายหุ้นต่อ ประชาชน และการนำหุ้นของบริษัทฯ เข้าจดทะเบียน ในตลาดหลักทรัพย์
บริษัทฯ ได้แปรสภาพเป็นบริษัท (มหาชน) จำกัด และได้ทำการเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ บริษัท โรบินสัน จำกัด (มหาชน) (ROBINS) และเพิกถอนหุ้นของ ROBINS ออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน ในตลาดหลักทรัพย์ฯ
นอกจากนี้ ได้เข้าซื้อหุ้นส่วนที่เหลือทั้งหมด ในธุรกิจเหงียนคิม ในประเทศเวียดนาม
สำหรับประเทศอิตาลี ได้มีการเปิดให้บริการ รีนาเชนเต สาขาตูรินหลังการปรับปรุงสาขา โดยมีการขยายพื้นที่และรวบรวมแบรนด์ดังระดับโลกกว่า 1,000 แบรนด์ รวมถึง เพิ่มโซนเครื่องประดับ และร้านอาหารชั้นนำ เพื่อนำเสนอสินค้าและบริการอย่างครบครัน
เปิดซื้อขายหลักทรัพย์ CRC วันแรกในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นหุ้นไอพีโอที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ และเป็นหุ้นไอพีโอของกลุ่มธุรกิจค้าปลีกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก รวมทั้งเข้าไปรวมอยู่ในดัชนี SET 50 และ MSCI Global Standard Indexes และได้ดำเนินแผน “ยุทธศาสตร์ 5 พร้อม” ที่ตอบโจทย์ความท้าทายในยุค นิวนอร์มอล อีกทั้ง เปิดตัวเว็บไซต์ www.rinascente.it. ในประเทศอิตาลี
นอกจากนี้ ได้เปิดโรบินสัน ไลฟ์สไตล์ เซ็นเตอร์ 1 สาขา และไทวัสดุ 4 สาขาในประเทศไทย สำหรับในเวียดนาม ได้เปิด GO! 4 สาขา และมินิ โก (go!) สาขาแรก และได้ปรับภาพลักษณ์จากแบรนด์ค้าปลีกบิ๊กซีเป็น GO! 4 สาขา
มกราคม: เปิดไทวัสดุ 2 สาขา ได้แก่ สาขาสุขสวัสดิ์และสาขาบ่อวิน และได้เปิดตัวแอปพลิเคชัน GO! สำหรับซื้อสินค้าอุปโภค-บริโภคในประเทศเวียดนาม
กุมภาพันธ์: ทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ COL(1) แล้วเสร็จ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับส่วนงานฮาร์ดไลน์ สร้างมูลค่าเพิ่มจาก Synergy รวมถึงการขยายธุรกิจไปยังตลาดภาคองค์กร
เมษายน: เปิด GO! ที่เมือง Thai Nguyen ในประเทศเวียดนาม นอกจากนี้ สำหรับในประเทศไทย ได้เปิดจริงใจ มาร์เก็ต ซึ่งตั้งอยู่ภายในท็อปส์ในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของ COVID-19 และมีทั้งหมด 25 สาขาในปี 2564
พฤษภาคม: นำเสนอบริการใหม่ล่าสุด Personal Shopper ทั้งในส่วนงาน Non Food และขยายให้ครอบคลุมในส่วนงานฟู้ด ได้แก่ ท็อปส์และเซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์
กรกฎาคม: เปิดไทวัสดุ สาขาอยุธยา
สิงหาคม: เปิดไทวัสดุ สาขาสงขลาและ go! WOW สาขาแรกในประเทศไทย ภายใต้กลุ่มธุรกิจฮาร์ดไลน์ ซึ่งเป็นร้านสินค้าเบ็ดเตล็ดภายในบ้าน และได้เข้าลงทุนในสตาร์ทอัพไทย Mercular (2) โดยการลงทุนนี้ได้ทำเสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2564
ตุลาคม: เปิดตัว go! Power สาขาแรกที่หัวหิน ภายใต้กลุ่มธุรกิจฮาร์ดไลน์ ซึ่งเป็นร้านขายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ครบวงจร ซึ่งมุ่งเน้นเจาะตลาดในต่างจังหวัด
พฤศจิกายน: เปิดไทวัสดุ สาขาศรีสมาน รูปแบบใหม่ Hybrid Format สาขาแรก โดยรวมไทวัสดุ และ BNB Home เพื่อตอบโจทย์ความต้องการสินค้าตกแต่งบ้านสำหรับคนเมือง และได้เปิดห้างสรรพสินค้าโรบินสัน อยุธยา และเปิด GO! ที่เมือง Ba Ria ในประเทศเวียดนาม
อีกทั้ง ได้ทรานส์ฟอร์มองค์กรเป็นเบอร์หนึ่ง ‘Digital First’ และ ‘Omni-Centric Retailer’ พร้อมแพลตฟอร์ม Omnichannel ครอบคลุมทุกกลุ่มธุรกิจใน 3 ประเทศ ส่งผลให้องค์กรมีความแข็งแกร่ง พร้อมเติบโตอย่างยั่งยืน
ธันวาคม: ลงทุนในบริษัท แกร็บแท็กซี่ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด(3) ในสัดส่วนร้อยละ 40 โดยการเข้าลงทุนดังกล่าว ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับ Ecosystem และแพลตฟอร์ม Omnichannel ของกลุ่มบริษัทฯ นอกจากนี้ ได้เปิด GO! ที่เมือง Thai Binh ในประเทศเวียดนาม
หมายเหตุ:
(1) บริษัท พีบีเอชดี จำกัด (บริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 100) ได้ดำเนินการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัท ซีโอแอล จำกัด (มหาชน) (COL) แล้วเสร็จเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2564
(2) Mercular เป็น Community Commerce หรือเป็นแพลตฟอร์มที่มุ่งเน้นการสร้างคุณค่าให้กับลูกค้า โดยลงทุนผ่านการจับมือกับเพาเวอร์บาย ต่อยอดช่องทางการขายจาก E-commerce สู่แพลตฟอร์ม Omnichannel และขยายตลาดสินค้ากลุ่ม Hobby & Lifestyle โดยมุ่งเน้นสร้างประสบการณ์ที่ดี ตั้งแต่การมีสินค้าที่แตกต่างและครบครัน การให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสินค้า การสร้าง Community และมีการบริการหลังการขายที่ให้บริการอย่างรวดเร็ว
(3) บริษัทฯ เข้าซื้อหุ้น Porto Worldwide Limited (Porto WW) สัดส่วนร้อยละ 67 ซึ่งลงทุนในบริษัท แกร็บแท็กซี่ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ในสัดส่วนร้อยละ 40 โดยการเข้าลงทุนดังกล่าวและการร่วมมือกับ Grab จะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับ Ecosystem และแพลตฟอร์ม Omnichannel ของกลุ่มบริษัทฯ รวมถึงการพัฒนาด้านการให้บริการให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น