เซ็นทรัล รีเทล กำหนดประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืนโดยพิจารณาการประเมินประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และกำกับดูแลกิจการ (ESG) จากปัจจัยด้าน ESG ที่อาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อผลการดำเนินงานทางการเงินของบริษัทฯ (Financial Materiality) และผลกระทบจากการดำเนินธุรกิจที่มีต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม (Impact Materiality) ตามหลักการ Double Materiality ที่สอดคล้องกับมาตรฐานการรายงานสากล เช่น European Sustainability Reporting Standards (ESRS) และ Global Reporting Initiative (GRI)

กระบวนการนี้ช่วยให้องค์กรสามารถระบุและบริหารจัดการความเสี่ยงและโอกาสที่เกี่ยวข้องกับ ESG ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เสริมสร้างความสามารถในการแข่งขัน และตอบสนองต่อความคาดหวังของผู้มีส่วนได้เสีย รวมถึง นักลงทุน หน่วยงานกำกับดูแล และภาคประชาสังคม ที่ให้ความสำคัญกับแนวปฏิบัติด้านความยั่งยืนมากขึ้น รวมทั้งยังช่วยให้เซ็นทรัล รีเทลสามารถเตรียมพร้อมต่อกฎระเบียบใหม่ และขับเคลื่อนธุรกิจบนพื้นฐานของความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง

กระบวนการกำหนดประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืน

1. การวิเคราะห์บริบทขององค์กร

เซ็นทรัล รีเทล ได้วิเคราะห์บริบทในทุกกิจกรรมตลอดห่วงโซ่คุณค่า ที่เชื่อมโยงกับผู้มีส่วนได้เสียของบริษัทฯ รวมทั้งพิจารณาประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืน จากมาตรฐานสากล ทิศทางด้านความยั่งยืนระดับโลก และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มีความเข้าใจถึงบริบทด้านความยั่งยืนและธุรกิจที่ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น

2. การระบุผลกระทบที่เกิดขึ้นจริง หรืออาจเกิดขึ้น

เซ็นทรัล รีเทล ได้ระบุผลกระทบเชิงบวก และเชิงลบที่เกิดขึ้น หรืออาจเกิดขึ้น (Actual and Potential Impacts) ต่อประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืน ผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากการสัมภาษณ์ และการทำแบบสอบถาม กับผู้มีส่วนได้เสียของบริษัทฯ ได้แก่ พนักงาน คู่ค้า ลูกค้า ผู้ถือหุ้น เจ้าหนี้ ภาครัฐ และชุมชน

3. การประเมินและจัดลำดับความสำคัญของประเด็นด้านความยั่งยืน

เซ็นทรัล รีเทล ได้ประเมินความสำคัญของผลกระทบที่ระบุในแต่ละประเด็นด้านความยั่งยืน โดยพิจารณาเกณฑ์การประเมินจากระดับความรุนแรงของผลกระทบ (Severity) และโอกาสที่จะเกิด (Likelihood) รวมทั้งประเมินความเสี่ยง และโอกาสของผลกระทบต่อธุรกิจ โดยพิจารณาเกณฑ์การประเมินจากขนาดของผลกระทบทางการเงินต่อธุรกิจ (Size of financial implication) และโอกาสที่จะเกิด (Likelihood)

ผลการประเมินที่ได้ ถูกนำมาจัดลำดับความสำคัญ โดยกำหนดประเด็นสำคัญออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ ประเด็นที่สร้างคุณค่า ประเด็นหลัก และประเด็นพื้นฐาน เพื่อกำหนดขอบเขตสำหรับแนวทางในการบริหารจัดการและการรายงานข้อมูลด้านความยั่งยืน ทั้งนี้ ได้มีการพิจารณาลำดับความสำคัญของประเด็นด้านความยั่งยืน โดยคำนึงถึงความสอดคล้องกับมาตรฐานสากลที่เกี่ยวข้อง รวมถึงความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญด้าน ESG จากหน่วยงานภายนอก

4. การพิจารณาอนุมัติผลการประเมิน

คณะกรรมการบรรษัทบภิบาลและการพัฒนาเพื่อความยั่งยืน ทบทวนและพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อผลการประเมินประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืน และนำเสนอต่อคณะกรรมการบริหารเพื่อรับรองประเด็นสำคัญของบริษัทฯ เพื่อนำไปใช้ในการกำหนดกลยุทธ์และเป้าหมายด้านความยั่งยืนของเซ็นทรัล รีเทล รวมทั้งการกำหนดหัวข้อในการเปิดเผยข้อมูลในรายงานความยั่งยืน

ผลประเมินประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืนประจำปี 2567

จากผลการประเมิน เซ็นทรัล รีเทล ได้ระบุและจัดกลุ่มประเด็นสำคัญออกเป็นสามกลุ่ม โดยแต่ละกลุ่มมีแนวทางเชิงกลยุทธ์และการรายงานข้อมูล ดังนี้

ประเด็นที่สร้างคุณค่า: มุ่งเน้นการกำหนดกลยุทธ์และแนวทางการบริหารจัดการที่ชัดเจน เพื่อสร้างผลกระทบที่เป็นรูปธรรมและส่งเสริมความสำเร็จทางธุรกิจ โดยมีการรายงานข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องอย่างครอบคลุม แสดงผลลัพธ์จากการดำเนินงานที่วัดได้ในเชิงปริมาณหรือตัวเลขทางการเงิน

ประเด็นสำคัญ: ให้ความสำคัญกับการแสดงความมุ่งมั่นเชิงกลยุทธ์และการดำเนินการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและผลิตภาพ โดยมีการรายงานข้อมูลแนวทางการบริหารจัดการต่อผลกระทบ ความเสี่ยง และโอกาสที่มีนัยสำคัญ

ประเด็นพื้นฐาน: กำหนดโครงสร้างการกำกับดูแลและแนวทางการบริหารจัดการเพื่อให้สอดคล้องหรือสูงกว่ากฎระเบียบและมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง โดยมีการรายงานข้อมูลที่สำคัญต่อผู้มีส่วนได้เสีย

สิ่งแวดล้อม สังคม การกำกับดูแลกิจการ
ประเด็นที่สร้างคุณค่า
ประเด็นที่สร้างคุณค่า

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

การบริหารลูกค้าสัมพันธ์และแบรนด์

การบริหารทรัพยากรบุคคล

นวัตกรรม

การจัดการห่วงโซ่อุปทาน

ประเด็นสำคัญ
ประเด็นสำคัญ

การบริหารจัดการทรัพยากร

การจัดหาสินค้าอย่างรับผิดชอบ

การสร้างคุณค่าร่วมกับชุมชน

ความหลากหลาย ความเสมอภาค และการอยู่ร่วมกัน

ความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์และการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ประเด็นพื้นฐาน
ประเด็นพื้นฐาน

การดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชน

อาชีวอนามัยและความปลอดภัย

การกำกับดูแลกิจการและจรรยาบรรณธุรกิจ

การบริหารจัดการความเสี่ยงและภาวะวิกฤติ

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ผลกระทบ

การปล่อยก๊าซเรือนกระจกในระยะยาวอาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในทิศทางที่ก่อให้เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ร้ายแรงขึ้น ไม่ว่าจะด้านอุทกภัย พายุ หรือภัยแล้ง จนธุรกิจและชุมชนโดยรอบได้รับผลกระทบรุนแรงยิ่งขึ้น ส่งผลให้ผู้มีส่วนได้เสียขาดความเชื่อมั่น

ผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้อง

ผู้ถือหุ้น พนักงาน คู่ค้า ลูกค้า เจ้าหนี้ ภาครัฐ ชุมชน

การจัดหาสินค้ามีความรับผิดชอบ

ผลกระทบ

การจัดหาสินค้าอย่างมีความรับผิดชอบเป็นการสนับสนุนระบบการผลิตสินค้าและบริการที่สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม รวมทั้งอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ และป้องกันการตัดไม้ทำลายป่า ตลอดจนยกระดับความเป็นอยู่ที่ดีในชุมชนท้องถิ่น นอกจากนี้ ยังช่วยส่งเสริมสุขภาพที่ดีและตอบสนองต่อความคาดหวังของลูกค้า

ผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้อง

ผู้ถือหุ้น พนักงาน คู่ค้า ลูกค้า เจ้าหนี้ ภาครัฐ ชุมชน

การบริหารจัดการทรัพยากร

ผลกระทบ

การลดการใช้ทรัพยากรผ่านการออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมหรือการแปรรูปขยะพลาสติกให้เป็นสินค้าสินค้ามูลค่าเพิ่ม จะช่วยลดต้นทุนและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของกระบวนการผลิต อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมพฤติกรรมการบริโภคที่ยั่งยืน และเพิ่มการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้แก่ลูกค้า

ผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้อง

ผู้ถือหุ้น พนักงาน คู่ค้า ลูกค้า เจ้าหนี้ ภาครัฐ ชุมชน

การบริหารทรัพยากรบุคคล

ผลกระทบ

การส่งเสริมให้พนักงานพัฒนาทักษะใหม่ที่สอดคล้องกับกลยุทธ์ทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง อาทิ ทักษะการตลาดและการขายผ่านช่องทางออนไลน์ จะช่วยเพิ่มทั้งประสิทธิภาพการทำงานและศักยภาพพนักงาน

ผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้อง

ผู้ถือหุ้น พนักงาน คู่ค้า ลูกค้า ภาครัฐ

อาชีวอนามัยและความปลอดภัย

ผลกระทบ

การบริหารจัดการระบบอาชีวอนามัยและความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพ เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุหรืออันตรายในพื้นที่ดำเนินธุรกิจ สร้างความเชื่อมั่นของผู้มีส่วนได้เสียและลดการเกิดอุปสรรคในดำเนินธุรกิจ

ผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้อง

ผู้ถือหุ้น พนักงาน คู่ค้า ลูกค้า เจ้าหนี้ ภาครัฐ ชุมชน

การดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชน

ผลกระทบ

การละเมิดสิทธิมนุษยชนอาจทำให้บริษัทฯ เสี่ยงต่อการถูกฟ้องร้องเผชิญกับข่าวร้าย และการคว่ำบาตร นำไปสู่การสูญเสียผลกำไรและชื่อเสียงของบริษัทฯ อย่างไรก็ตาม การปฏิบัติตามสิทธิมนุษยชนส่งเสริมธุรกิจที่ยั่งยืนด้วยสถานที่ทำงานที่ยุติธรรมและให้ความเคารพ ส่งผลให้พนักงานทำงานได้มีประสิทธิผลมากขึ้นและเพิ่มความไว้วางใจจากลูกค้า

ผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้อง

ผู้ถือหุ้น พนักงาน คู่ค้า ลูกค้า ภาครัฐ ชุมชน

การสร้างคุณค่าร่วมกับชุมชน

ผลกระทบ

บริษัทฯ ส่งเสริมการสร้างคุณค่าทางเศรษฐกิจให้แก่ชุมชนและพัฒนาผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นให้มีมูลค่าสูงขึ้นผ่านการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ทักษะการขาย และช่องทางจัดจำหน่าย ส่งผลให้ชุมชนมีรายได้เพิ่มและมีความสัมพันธ์ที่ดียิ่งขึ้นกับบริษัทฯ

ผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้อง

ผู้ถือหุ้น ลูกค้า ภาครัฐ ชุมชน

ความหลากหลาย ความเสมอภาค และการอยู่ร่วมกัน

ผลกระทบ

การส่งเสริมความหลากหลาย ความเสมอภาค และการอยู่ร่วมกัน จะช่วยดึงดูดบุคลากรที่มีความสามารถอันหลากหลายมาทำงานกับบริษัทฯ ช่วยสร้างเสริมการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ และช่วยรักษาพนักงานให้อยู่กับองค์กร นอกจากนี้ ยังเป็นการสนับสนุนสินค้าและบริการที่มีความหลากหลาย ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสทางการตลาดและตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้ามากยิ่งขึ้น

ผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้อง

ผู้ถือหุ้น พนักงาน คู่ค้า ลูกค้า เจ้าหนี้ ภาครัฐ ชุมชน

การบริหารลูกค้าสัมพันธ์และแบรนด์

ผลกระทบ

การพัฒนาความสัมพันธ์กับลูกค้าและการพัฒนาแบรนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพผ่านการให้บริการที่ตอบสนองความคาดหวังของลูกค้า จะส่งผลให้ลูกค้ามีความภักดีต่อแบรนด์และส่งเสริมความเชื่อมั่นของผู้มีส่วนได้เสีย

ผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้อง

ผู้ถือหุ้น พนักงาน คู่ค้า ลูกค้า ภาครัฐ ชุมชน

การจัดการห่วงโซ่อุปทาน

ผลกระทบ

การสร้างความพร้อมของห่วงโซ่อุปทานที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม ร่วมมือกับคู่ค้าเพื่อพัฒนาศักยภาพการจัดการ ให้มีความพร้อม ประสิทธิภาพ และยืดหยุ่น

ผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้อง

ผู้ถือหุ้น พนักงาน คู่ค้า ลูกค้า ภาครัฐ

นวัตกรรม

ผลกระทบ

การสนับสนุนและส่งเสริมการคิดค้นนวัตกรรมเพื่อนำเทคโนโลยีมาใช้ในการดำเนินงาน จะช่วยยกระดับคุณภาพการบริการลูกค้าและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของพนักงาน

ผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้อง

ผู้ถือหุ้น พนักงาน คู่ค้า ลูกค้า เจ้าหนี้ ภาครัฐ ชุมชน

การกำกับดูแลกิจการและจรรยาบรรณธุรกิจ

ผลกระทบ

การกำกับดูแลกิจการอย่างมีจรรยาบรรณและโปร่งใส ตลอดกระบวนการดำเนินธุรกิจเพื่อสร้างความเป็นธรรม และความเชื่อมั่นต่อผู้มีส่วนได้เสีย

ผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้อง

ผู้ถือหุ้น พนักงาน คู่ค้า ลูกค้า เจ้าหนี้ ภาครัฐ ชุมชน

การบริหารจัดการความเสี่ยง และภาวะวิกฤติ

ผลกระทบ

การบริหารจัดการความเสี่ยง การสื่อสาร และจัดอบรมพนักงานด้านการจัดการความเสี่ยงที่ไม่ครอบคลุม อาจส่งผลให้บริษัทฯ ไม่สามารถรับมือต่อความเสี่ยงและวิกฤต จนเกิดการขัดข้องหรือหยุดชะงักของธุรกิจและสูญเสียความเชื่อมั่นของผู้มีส่วนได้เสีย

ผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้อง

ผู้ถือหุ้น พนักงาน คู่ค้า ลูกค้า เจ้าหนี้ ภาครัฐ ชุมชน

ความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์และการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ผลกระทบ

ระบบความมั่นคงทางไซเบอร์ที่ไม่มีประสิทธิภาพอาจเปิดช่องให้บริษัทฯ ตกเป็นเป้าการโจมตีทางไซเบอร์จนส่งผลให้การดำเนินธุรกิจหยุดชะงักและข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหล ตลอดจนนำไปสู่การฟ้องร้องและสูญเสียความเชื่อมั่นของผู้มีส่วนได้เสียในที่สุด

ผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้อง

ผู้ถือหุ้น พนักงาน คู่ค้า ลูกค้า ภาครัฐ