อาชีวอนามัยและความปลอดภัย

จำนวนผู้เสียชีวิตจากการทำงานของพนักงานและผู้รับเหมาเป็น

0

ทุกปี

อัตราความถี่ของการบาดเจ็บจากการทำงานถึงขั้นหยุดงานของพนักงานและผู้รับเหมา

0.5 กรณี ต่อ 1 ล้านชั่วโมงการทำงาน

ความท้าทาย และโอกาส

การบริหารจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัยเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่มั่นคงและยั่งยืน การดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับพนักงานจำนวนมากและพื้นที่ปฏิบัติงานที่หลากหลายจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับมาตรการด้านความปลอดภัยอย่างรอบด้าน การระบุและลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุและปัจจัยที่อาจเป็นอันตรายจึงต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ การปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยที่แตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ยังเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญ เพื่อให้มั่นใจว่าพนักงานและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม

แนวทางด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยที่ดี ช่วยส่งผลเชิงบวกต่อองค์กรในหลายมิติ การดูแลสภาพแวดล้อมการทำงานให้ปลอดภัยช่วยสร้างความมั่นใจให้กับพนักงาน ลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุและการเจ็บป่วย ซึ่งนำไปสู่การทำงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ในขณะเดียวกัน ลูกค้ายังได้รับประสบการณ์ที่ดีขึ้นจากการเลือกซื้อสินค้าในสถานที่ที่มีมาตรฐานด้านความปลอดภัยสูง นอกจากนี้ นักลงทุนและพันธมิตรทางธุรกิจยังให้ความสำคัญกับองค์กรที่มีแนวทางการบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างรับผิดชอบ ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันขององค์กร

เซ็นทรัล รีเทล จึงให้ความสำคัญกับการพัฒนามาตรการด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในทุกกระบวนการ ด้วยการดำเนินงานเชิงรุกเพื่อระบุและลดความเสี่ยงอย่างเป็นระบบ ปฏิบัติตามมาตรฐานด้านความปลอดภัยทั้งในระดับประเทศและสากล รวมถึงสนับสนุนให้พนักงานมีส่วนร่วมในวัฒนธรรมความปลอดภัย ผ่านการฝึกอบรมและการสื่อสารภายในองค์กรอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ เซ็นทรัล รีเทล ยังส่งเสริมแนวปฏิบัติด้านความปลอดภัยตลอดห่วงโซ่อุปทาน เพื่อให้คู่ค้าและพันธมิตรทางธุรกิจสามารถดำเนินงานสอดคล้องตามมาตรฐานของบริษัทฯ ทั้งหมดนี้เพื่อให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สร้างความไว้วางใจจากผู้มีส่วนได้เสีย และส่งเสริมการเติบโตอย่างยั่งยืน

แนวทางการบริหารจัดการ

การปฏิบัติตามนโยบายและการกำกับดูแลประสิทธิภาพ

เซ็นทรัล รีเทล ได้กำหนดนโยบายความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน รวมถึงตั้งเป้าหมายเชิงปริมาณประจำปี จัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่กำหนด และจัดทำรายงานผลการปฏิบัติงานรายไตรมาสให้กับคณะผู้บริหารหรือคณะกรรมการบริษัทฯ โดยกำหนดให้หัวหน้าฝ่ายทรัพยากรบุคคล หัวหน้าฝ่ายป้องกันการสูญเสีย และหัวหน้าฝ่ายความปลอดภัยฯ ของแต่ละหน่วยธุรกิจ กำกับดูแลและพัฒนาระบบบริหารจัดการความปลอดภัยฯ ให้ครอบคลุมทั้งพนักงานและผู้รับเหมาในทุกพื้นที่การดำเนินงาน ได้แก่ สำนักงาน ห้างสรรพสินค้า ร้านค้าเช่า และศูนย์กระจายสินค้า

นอกจากนี้ เซ็นทรัล รีเทล ยังมีการตรวจสอบภายใน (Internal audits) และการตรวจสอบภายนอก (External audits) ประจำปี เพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนดทางกฎหมายและมาตรฐานในระดับสากล ดังนี้

  1. มาตรฐานระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย ISO 45001
  2. พระราชบัญญัติจดทะเบียนเครื่องจักร พ.ศ. 2514
  3. พระราชบัญญัติจดทะเบียนเครื่องจักร (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2558
  4. กฎกระทรวง (พ.ศ. 2535) ออกตามความในพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535
  5. พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535
  6. พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2566
  7. พระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. 2554
  8. พระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2557
  9. พระราชกฤษฎีกา กฎกระทรวง ประกาศกระทรวง ประกาศกรม และกฎ ระเบียบข้อบังคับต่าง ๆ ของประเทศไทย
  10. พระราชบัญญัติควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพและโรคจากสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2562
  11. หลักเกณฑ์ภายใต้ Decree เลขที่ 81/2008 เรื่อง มาตรการรักษาความปลอดภัยต่าง ๆ เพื่อป้องกันมิให้เกิดอุบัติเหตุในสถานที่ทำงาน รวมทั้งโรคที่เกิดจากการประกอบอาชีพ (หน่วยธุรกิจในประเทศอิตาลี)
นโยบายความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน

คณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน

คณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (คปอ.) ประกอบด้วย ผู้จัดการสาขา ผู้จัดการด้านความปลอดภัย ตัวแทนพนักงานอย่างน้อย 2 คน และบุคลากรทางการแพทย์ มีหน้าที่ส่งเสริมการดำเนินงาน และสร้างการมีส่วนร่วมของพนักงานในการนำนโยบายและข้อกำหนดต่าง ๆ ไปปฏิบัติ ตรวจติดตามผล และปรับปรุงระบบการจัดการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด นอกจากนี้ คณะกรรมการฯ ยังมีหน้าที่กำกับดูแลการวางแผนป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ (Accident prevention plan) และการส่งเสริมความปลอดภัย (Safety promotion) โดยจัดให้มีกิจกรรมสำรวจความปลอดภัย (Safety walk) ภายในสาขา ตรวจติดตามผลการดำเนินงาน ตรวจสอบสาเหตุกรณีบาดเจ็บและเจ็บป่วยจากการทำงาน และรับเรื่องร้องเรียนและข้อคิดเห็นต่าง ๆ โดยคณะกรรมการฯ จะมีการประชุมประจำเดือน และประจำปี เพื่อสรุปผลการปฏิบัติงานซึ่งได้มาจากการปรึกษาหารือและการมีส่วนร่วมของพนักงานที่เกี่ยวข้อง นอกจากการรับข้อมูลเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมในการทำงาน อาชีวอนามัยและความปลอดภัยจากตัวแทนพนักงานแล้ว พนักงานทุกคนยังสามารถรับทราบนโยบายและแนวปฏิบัติต่าง ๆ และข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้องผ่านช่องทางออนไลน์ และประกาศบนบอร์ดของเซ็นทรัล รีเทล

การชี้บ่งอันตราย การประเมินความเสี่ยง และการตรวจสอบกรณีการบาดเจ็บและเจ็บป่วยจากการทำงาน

เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยมีหน้าที่กำหนดกระบวนการระบุอันตรายและการประเมินความเสี่ยงเพื่อใช้เป็นแนวทางในการประเมินระดับความเสี่ยงหรือผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในการทำงาน หากพนักงานได้รับบาดเจ็บหรือเจ็บป่วยจากการทำงาน เซ็นทรัล รีเทล จะรับผิดชอบการรักษาพยาบาลและการประกันภัยที่เหมาะสม โดยมีเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยดำเนินการสอบสวนอุบัติเหตุดังกล่าวเพื่อหาสาเหตุ

ผลจากการระบุอันตรายและการประเมินความเสี่ยง ตลอดจนการสอบสวนอุบัติเหตุนำมาใช้เพื่อพัฒนาแผนการดำเนินงานที่เน้นการลดความเสี่ยงและป้องกันการเกิดซ้ำ โดยแผนดังกล่าวจำเป็นต้องมีตัวชี้วัดและเป้าหมายที่ชัดเจนในการปรับปรุงระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีมาตรการตอบสนองต่อสถานการณ์ฉุกเฉิน การประเมินและติดตามอันตรายและความเสี่ยงในสภาพแวดล้อมการทำงาน

นอกจากนี้ เซ็นทรัล รีเทล ยังมีแผนบริหารจัดการกระบวนการและฐานข้อมูล เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ครอบคลุมการดำเนินงานทั้งหมด และพัฒนาการจัดลำดับความสำคัญของแผนปฏิบัติการเชิงรุกด้วยการกำหนดเป้าหมายเชิงปริมาณ เพื่อรับมือกับความเสี่ยงด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยอย่างมีประสิทธิภาพ โดยจะมีการประเมินความคืบหน้าและผลการดำเนินงานเพื่อนำไปปรับปรุงโครงการด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยให้บรรลุกับเป้าหมายที่ตั้งไว้

เซ็นทรัล รีเทล ยังสนับสนุนให้พนักงานและผู้รับเหมามีส่วนร่วมในกระบวนการด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยผ่านการสื่อสารและการฝึกอบรมอย่างสม่ำเสมอ มีกระบวนการป้องกันการกระทำใด ๆ ที่ถือว่ามีความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดอันตราย และการรายงานความเสี่ยงผ่านหัวหน้างาน ผู้จัดการแผนก และศูนย์ช่วยเหลือ (Help center) เพื่อขอความช่วยเหลือและประสานงานกับแผนกที่เกี่ยวข้อง

หลังจากดำเนินการระบุอันตรายและประเมินความเสี่ยงแล้ว เซ็นทรัล รีเทล ได้กำหนดลำดับชั้นของการควบคุม (Hierarchy of controls) เพื่อขจัดอันตรายอย่างเป็นระบบ โดยจัดลำดับความสำคัญของวิธีการที่มีประสิทธิภาพสูงสุด เริ่มจากการป้องกัน การทดแทน การควบคุมทางวิศวกรรมและการบริหาร และการจัดหาอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล เพื่อลดความเสี่ยงและอันตรายจากการทำงานของพนักงานและผู้รับเหมา

กระบวนการชี้บ่งอันตรายและการประเมินความเสี่ยง
กระบวนการตรวจสอบกรณีการบาดเจ็บและเจ็บป่วยจากการทำงาน

ตัวอย่างมาตรการที่ใช้แนวทางลำดับชั้นของการควบคุม (Hierarchy of controls) เพื่อลดอันตรายภายใน เซ็นทรัล รีเทล ที่อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บจากการทำงานและปัญหาด้านสุขภาพ มีดังต่อไปนี้

การฝึกอบรมอาชีวอนามัยและความปลอดภัย

เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยมีความสำคัญในการขับเคลื่อน ดำเนินงาน และปรับปรุงระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย เซ็นทรัล รีเทล จึงได้คัดเลือกเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยที่มีคุณสมบัติและมีประสบการณ์ตรง รวมทั้งกำหนดให้เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยและพนักงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมอบรมมาตรฐาน ISO 45001:2018 ข้อกำหนดระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย การอบรมประจำปีเกี่ยวกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องในแต่ละประเทศที่ดำเนินการ และการฝึกอบรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องทุกปี

นอกจากนี้ ฝ่ายทรัพยากรบุคคล ฝ่ายป้องกันการสูญเสีย แต่ละหน่วยธุรกิจร่วมจัดฝึกอบรมด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยให้กับพนักงาน ทั้งการฝึกอบรมแบบออนไลน์และการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ โดยมีหลักสูตรข้อบังคับตามแนวทางของกฎหมาย โดยเฉพาะในประเทศอิตาลี และหลักสูตรสมัครใจต่าง ๆ เช่น การชี้บ่งอันตราย การประเมินความเสี่ยง คู่มือความปลอดภัยในการทำงาน และกรณีศึกษาในคลังสินค้า เป็นต้น รวมทั้งการฝึกอบรมเกี่ยวกับเทคนิคการขับขี่และการขับขี่อย่างปลอดภัยให้แก่พนักงานขับรถและพนักงานจัดส่งสินค้า นอกจากนี้ ฝ่ายทรัพยากรบุคคล ฝ่ายป้องกันการสูญเสีย ฝ่ายความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานของแต่ละหน่วยธุรกิจ มีหน้าที่รับผิดชอบในการรวบรวมข้อมูลด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยเพื่อนำมาปรับปรุงการฝึกอบรมให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

การส่งเสริมอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการดำเนินงาน

เซ็นทรัล รีเทล มีการอำนวยความสะดวกในการเข้าถึงบริการที่เกี่ยวข้องกับอาชีวอนามัยและความปลอดภัย และบริการด้านสุขภาพแก่พนักงานและผู้รับเหมา โดยจัดให้มีห้องปฐมพยาบาลในทุกสถานประกอบการ มีสวัสดิการในการเบิกค่ารักษาพยาบาลของพนักงาน อีกทั้งมีช่องทาง Help Center ในการให้คำแนะนำด้านสุขภาพจากพยาบาลวิชาชีพและสามารถประสานงานเพื่อขอความช่วยเหลือเพิ่มเติมได้

นอกจากนี้ หน่วยธุรกิจในประเทศอิตาลี ยังให้ความสำคัญด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน โดยให้บริการทางการแพทย์และการดูแลสุขภาพที่นอกเหนือจากอาชีวอนามัยและความปลอดภัยจากการทำงาน ซึ่งบริการและโปรแกรมส่งเสริมสุขภาพดังกล่าวออกแบบมาเพื่อเสริมสร้างสุขภาพกายและสุขภาพจิตของพนักงาน รวมทั้งมีการริเริ่มโครงการต่าง ๆ เช่น 'Safe Zone' การเสวนาเรื่องสุขภาพจิต ส่วนลดสมาชิกฟิตเนส การให้คำปรึกษาเกี่ยวกับมะเร็งเต้านม การตรวจสุขภาพผิวหนังโดยโรงพยาบาลขนาดใหญ่ ตลอดจนการเข้าถึงบริการทางการแพทย์จากโรงพยาบาลเอกชนและโรงพยาบาลคู่สัญญาประกันสุขภาพ

เซ็นทรัล รีเทล ยังให้ความสำคัญกับการเพิ่มมาตรการด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยให้ครอบคลุมคู่ค้าและผู้รับเหมา โดยมุ่งมั่นที่จะลดความเสี่ยงและสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัยสำหรับผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายผ่านการปฏิบัติตามระเบียบปฏิบัติด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยของ เซ็นทรัล รีเทล อย่างเคร่งครัด รวมถึงข้อกำหนดสำหรับคู่ค้าและผู้รับเหมาที่จะต้องปฏิบัติตามมาตรฐานการใช้อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) ที่เหมาะสม อีกทั้งเพื่อสร้างความปลอดภัยในการทำงานร่วมกัน เซ็นทรัล รีเทล มุ่งมั่นที่จะสร้างความยั่งยืนในสถานประกอบการควบคู่กับความเป็นอยู่ที่ดีของทุกคนที่เกี่ยวข้อง

นอกจากนี้ เซ็นทรัล รีเทล ได้พัฒนาระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานอย่างต่อเนื่องตามแนวทางดังต่อไปนี้

  • ติดตามประกาศกฎระเบียบด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และประกาศแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสมเพื่อนำมาปรับใช้
  • เปิดโอกาสให้พนักงานแสดงความคิดเห็นและเสนอแนะแนวทางใหม่ ๆ เพื่อพัฒนาความปลอดภัยในสถานประกอบการ
  • ดำเนินการตรวจสอบเพื่อประเมินประสิทธิภาพของการกำกับดูแลด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานอย่างสม่ำเสมอ
  • ทบทวนและปรับปรุงแนวทางการจัดการด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องตามกฎระเบียบที่มีการเปลี่ยนแปลงและแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด

การบริหารจัดการด้านความปลอดภัยฯ แก่คู่ค้าและผู้รับเหมา

เซ็นทรัล รีเทล ได้มีการนำหลักเกณฑ์และข้อกำหนดด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยมาใช้ในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างและการทำสัญญา เพื่อให้แน่ใจว่าคู่ค้าและผู้รับเหมาจะปฏิบัติตามมาตรฐานด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยของเซ็นทรัล รีเทล โดยในสัญญาสำหรับลงนามระหว่างบริษัทฯ และคู่ค้าหรือผู้รับเหมา จะระบุเกณฑ์ด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยไว้ในเอกสาร ตลอดจนมีการตรวจสอบใบอนุญาตและใบรับรองที่เกี่ยวข้องของคู่ค้าและผู้รับเหมา นอกจากนี้ ในกระบวนการคัดเลือกคู่ค้าและผู้รับเหมา จะมีการจัดลำดับความสำคัญและคัดเลือกคู่ค้าและผู้รับเหมาที่ให้ความสำคัญและมีระบบการจัดการด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย โดยรวมหลักเกณฑ์และข้อกำหนดต่าง ๆ เช่น การปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย การฝึกอบรมด้านความปลอดภัย และการจัดหาอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล เป็นต้น ทั้งนี้การนำเกณฑ์ด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย เข้ามาใช้ในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง สามารถลดความเสี่ยง ป้องกันอุบัติเหตุจากการทำงาน และสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นตลอดห่วงโซ่อุปทาน

โครงการสำคัญ

การอบรมปฐมพยาบาลเบื้องต้นและกู้ชีพฉุกเฉิน (AED)

ในปี 2567 บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ได้มีการจัดฝึกอบรมการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและการช่วยฟื้นคืนชีพ (AED) ให้แก่พนักงานจำนวน 1,940 คนจากกลุ่มธุรกิจ CFG, PWB และ CDG ทั่วประเทศ โดยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์แพทย์อาชีวเวชศาสตร์กรุงเทพมหานครและเจ้าหน้าที่เฉพาะทางได้ให้ความรู้และฝึกปฏิบัติจริงในการปฐมพยาบาล การทำ CPR และการใช้เครื่อง AED เพื่อให้ผู้เข้าร่วมมีความรู้และทักษะในการรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยเฉพาะภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน เพิ่มความมั่นใจในการช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ สร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัย และลดการสูญเสียชีวิต

การอบรม "สร้างสุขวัยทำงาน"

โครงการ "สร้างสุขวัยทำงาน" ถูกจัดขึ้นเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2567 ณ สำนักงานใหญ่บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล ณ เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ ซึ่งได้มีการดำเนินการร่วมกันระหว่าง บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด และศูนย์สุขภาพจิตที่ 4 กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข โดยมีผู้เข้าร่วมอบรม 22 คน โครงการนี้มุ่งเน้นให้ความรู้เกี่ยวกับเทคนิคการจัดการความเครียด การปรับจิตใจให้เข้มแข็ง และการสร้างความสุขในการทำงานและชีวิตประจำวัน ผู้เข้าร่วมยังได้ฝึกฝนวิธีการปล่อยวางและมองปัญหาในแง่บวก ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริง โครงการนี้สะท้อนถึงความใส่ใจขององค์กรต่อสุขภาพจิตของพนักงาน ซึ่งส่งผลดีต่อประสิทธิภาพการทำงานและความยั่งยืนขององค์กรในระยะยาว

การซ้อมแผนฉุกเฉิน 20 แผน

ในปี 2567 เซ็นทรัล รีเทล ได้ดำเนินการจัดทำ แผนฉุกเฉิน 20 แผน ให้ครอบคลุมทุกสาขาของห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล และโรบินสัน เพื่อให้ผู้บริหารและพนักงานมีความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยมุ่งเน้นการปกป้องชีวิตของลูกค้า พนักงาน และทรัพย์สินของบริษัทฯ รวมถึงการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง (Business Continuity) แผนฉุกเฉินครอบคลุมเหตุการณ์สำคัญ เช่น อพยพหนีไฟ (ซ้อมทุกปีตามกฎหมายกำหนด) กราดยิง (ซ้อมทุกปีตามนโยบายผู้บริหาร CRC) จลาจล วัตถุต้องสงสัย แก๊สรั่ว มิจฉาชีพลักทรัพย์ลูกค้า พบบัตรเครดิตปลอม บุคคลพยายามฆ่าตัวตาย บุคคลตกจากที่สูง บันไดเลื่อนหนีบกระโปรง/อวัยวะ ลิฟต์ค้าง แผ่นดินไหว น้ำท่วม ลูกค้าได้รับอุบัติเหตุ เด็กพลัดหลง ทะเลาะวิวาท ฝ้าร่วง สปริงเกอร์แตก และไฟฟ้าขัดข้อง โดยมีการประเมินผลจากคณะกรรมการซึ่งผู้เข้าร่วมประกอบด้วยผู้จัดการสาขา ผู้จัดการแผนก ผู้จัดการฝ่าย และพนักงานที่เกี่ยวข้องกับแผนฉุกเฉิน จะต้องทำคะแนนเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 80% แผนฉุกเฉินเหล่านี้ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริหาร ลูกค้า พนักงาน และผู้มีส่วนได้เสียทั้งหมดว่า เซ็นทรัล รีเทล มีมาตรฐานสูงในการป้องกันการหยุดชะงักทางธุรกิจ และสามารถรักษาความปลอดภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ผลการดำเนินงาน ปี 2567

ความครอบคลุมของระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย
ระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย
พนักงาน
ร้อยละ100

ผู้รับเหมา
ร้อยละ100

จำนวนผู้เสียชีวิตที่เกิดจากการบาดเจ็บที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน

การเสียชีวิตจากการทำงาน – พนักงาน (กรณี)
การเสียชีวิตจากการทำงาน – ผู้รับเหมา (กรณี)

อัตราความถี่ของการบาดเจ็บจากการทำงานถึงขั้นหยุดงาน

อัตราการบาดเจ็บจากการทำงานถึงขั้นหยุดงานของพนักงาน (กรณี / 1 ล้านชั่วโมงทำงาน)
อัตราการบาดเจ็บจากการทำงานถึงขั้นหยุดงานของผู้รับเหมา (กรณี / 1 ล้านชั่วโมงทำงาน)

เรื่องราวของเรา