อาชีวอนามัยและความปลอดภัย
ความท้าทาย และโอกาส
การบริหารจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัยเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่มั่นคงและยั่งยืน การดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับพนักงานจำนวนมากและพื้นที่ปฏิบัติงานที่หลากหลายจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับมาตรการด้านความปลอดภัยอย่างรอบด้าน การระบุและลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุและปัจจัยที่อาจเป็นอันตรายจึงต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ การปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยที่แตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ยังเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญ เพื่อให้มั่นใจว่าพนักงานและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม
แนวทางด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยที่ดี ช่วยส่งผลเชิงบวกต่อองค์กรในหลายมิติ การดูแลสภาพแวดล้อมการทำงานให้ปลอดภัยช่วยสร้างความมั่นใจให้กับพนักงาน ลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุและการเจ็บป่วย ซึ่งนำไปสู่การทำงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ในขณะเดียวกัน ลูกค้ายังได้รับประสบการณ์ที่ดีขึ้นจากการเลือกซื้อสินค้าในสถานที่ที่มีมาตรฐานด้านความปลอดภัยสูง นอกจากนี้ นักลงทุนและพันธมิตรทางธุรกิจยังให้ความสำคัญกับองค์กรที่มีแนวทางการบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างรับผิดชอบ ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันขององค์กร
เซ็นทรัล รีเทล จึงให้ความสำคัญกับการพัฒนามาตรการด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในทุกกระบวนการ ด้วยการดำเนินงานเชิงรุกเพื่อระบุและลดความเสี่ยงอย่างเป็นระบบ ปฏิบัติตามมาตรฐานด้านความปลอดภัยทั้งในระดับประเทศและสากล รวมถึงสนับสนุนให้พนักงานมีส่วนร่วมในวัฒนธรรมความปลอดภัย ผ่านการฝึกอบรมและการสื่อสารภายในองค์กรอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ เซ็นทรัล รีเทล ยังส่งเสริมแนวปฏิบัติด้านความปลอดภัยตลอดห่วงโซ่อุปทาน เพื่อให้คู่ค้าและพันธมิตรทางธุรกิจสามารถดำเนินงานสอดคล้องตามมาตรฐานของบริษัทฯ ทั้งหมดนี้เพื่อให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สร้างความไว้วางใจจากผู้มีส่วนได้เสีย และส่งเสริมการเติบโตอย่างยั่งยืน
แนวทางการบริหารจัดการ
การปฏิบัติตามนโยบายและการกำกับดูแลประสิทธิภาพ
เซ็นทรัล รีเทล ได้กำหนดนโยบายความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน รวมถึงตั้งเป้าหมายเชิงปริมาณประจำปี จัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่กำหนด และจัดทำรายงานผลการปฏิบัติงานรายไตรมาสให้กับคณะผู้บริหารหรือคณะกรรมการบริษัทฯ โดยกำหนดให้หัวหน้าฝ่ายทรัพยากรบุคคล หัวหน้าฝ่ายป้องกันการสูญเสีย และหัวหน้าฝ่ายความปลอดภัยฯ ของแต่ละหน่วยธุรกิจ กำกับดูแลและพัฒนาระบบบริหารจัดการความปลอดภัยฯ ให้ครอบคลุมทั้งพนักงานและผู้รับเหมาในทุกพื้นที่การดำเนินงาน ได้แก่ สำนักงาน ห้างสรรพสินค้า ร้านค้าเช่า และศูนย์กระจายสินค้า
นอกจากนี้ เซ็นทรัล รีเทล ยังมีการตรวจสอบภายใน (Internal audits) และการตรวจสอบภายนอก (External audits) ประจำปี เพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนดทางกฎหมายและมาตรฐานในระดับสากล ดังนี้

- มาตรฐานระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย ISO 45001
- พระราชบัญญัติจดทะเบียนเครื่องจักร พ.ศ. 2514
- พระราชบัญญัติจดทะเบียนเครื่องจักร (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2558
- กฎกระทรวง (พ.ศ. 2535) ออกตามความในพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535
- พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535
- พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2566
- พระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. 2554
- พระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2557
- พระราชกฤษฎีกา กฎกระทรวง ประกาศกระทรวง ประกาศกรม และกฎ ระเบียบข้อบังคับต่าง ๆ ของประเทศไทย
- พระราชบัญญัติควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพและโรคจากสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2562
- หลักเกณฑ์ภายใต้ Decree เลขที่ 81/2008 เรื่อง มาตรการรักษาความปลอดภัยต่าง ๆ เพื่อป้องกันมิให้เกิดอุบัติเหตุในสถานที่ทำงาน รวมทั้งโรคที่เกิดจากการประกอบอาชีพ (หน่วยธุรกิจในประเทศอิตาลี)
นโยบายความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน
คณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน
คณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (คปอ.) ประกอบด้วย ผู้จัดการสาขา ผู้จัดการด้านความปลอดภัย ตัวแทนพนักงานอย่างน้อย 2 คน และบุคลากรทางการแพทย์ มีหน้าที่ส่งเสริมการดำเนินงาน และสร้างการมีส่วนร่วมของพนักงานในการนำนโยบายและข้อกำหนดต่าง ๆ ไปปฏิบัติ ตรวจติดตามผล และปรับปรุงระบบการจัดการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด นอกจากนี้ คณะกรรมการฯ ยังมีหน้าที่กำกับดูแลการวางแผนป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ (Accident prevention plan) และการส่งเสริมความปลอดภัย (Safety promotion) โดยจัดให้มีกิจกรรมสำรวจความปลอดภัย (Safety walk) ภายในสาขา ตรวจติดตามผลการดำเนินงาน ตรวจสอบสาเหตุกรณีบาดเจ็บและเจ็บป่วยจากการทำงาน และรับเรื่องร้องเรียนและข้อคิดเห็นต่าง ๆ โดยคณะกรรมการฯ จะมีการประชุมประจำเดือน และประจำปี เพื่อสรุปผลการปฏิบัติงานซึ่งได้มาจากการปรึกษาหารือและการมีส่วนร่วมของพนักงานที่เกี่ยวข้อง นอกจากการรับข้อมูลเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมในการทำงาน อาชีวอนามัยและความปลอดภัยจากตัวแทนพนักงานแล้ว พนักงานทุกคนยังสามารถรับทราบนโยบายและแนวปฏิบัติต่าง ๆ และข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้องผ่านช่องทางออนไลน์ และประกาศบนบอร์ดของเซ็นทรัล รีเทล
การชี้บ่งอันตราย การประเมินความเสี่ยง และการตรวจสอบกรณีการบาดเจ็บและเจ็บป่วยจากการทำงาน
เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยมีหน้าที่กำหนดกระบวนการระบุอันตรายและการประเมินความเสี่ยงเพื่อใช้เป็นแนวทางในการประเมินระดับความเสี่ยงหรือผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในการทำงาน หากพนักงานได้รับบาดเจ็บหรือเจ็บป่วยจากการทำงาน เซ็นทรัล รีเทล จะรับผิดชอบการรักษาพยาบาลและการประกันภัยที่เหมาะสม โดยมีเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยดำเนินการสอบสวนอุบัติเหตุดังกล่าวเพื่อหาสาเหตุ
ผลจากการระบุอันตรายและการประเมินความเสี่ยง ตลอดจนการสอบสวนอุบัติเหตุนำมาใช้เพื่อพัฒนาแผนการดำเนินงานที่เน้นการลดความเสี่ยงและป้องกันการเกิดซ้ำ โดยแผนดังกล่าวจำเป็นต้องมีตัวชี้วัดและเป้าหมายที่ชัดเจนในการปรับปรุงระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีมาตรการตอบสนองต่อสถานการณ์ฉุกเฉิน การประเมินและติดตามอันตรายและความเสี่ยงในสภาพแวดล้อมการทำงาน
นอกจากนี้ เซ็นทรัล รีเทล ยังมีแผนบริหารจัดการกระบวนการและฐานข้อมูล เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ครอบคลุมการดำเนินงานทั้งหมด และพัฒนาการจัดลำดับความสำคัญของแผนปฏิบัติการเชิงรุกด้วยการกำหนดเป้าหมายเชิงปริมาณ เพื่อรับมือกับความเสี่ยงด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยอย่างมีประสิทธิภาพ โดยจะมีการประเมินความคืบหน้าและผลการดำเนินงานเพื่อนำไปปรับปรุงโครงการด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยให้บรรลุกับเป้าหมายที่ตั้งไว้
เซ็นทรัล รีเทล ยังสนับสนุนให้พนักงานและผู้รับเหมามีส่วนร่วมในกระบวนการด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยผ่านการสื่อสารและการฝึกอบรมอย่างสม่ำเสมอ มีกระบวนการป้องกันการกระทำใด ๆ ที่ถือว่ามีความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดอันตราย และการรายงานความเสี่ยงผ่านหัวหน้างาน ผู้จัดการแผนก และศูนย์ช่วยเหลือ (Help center) เพื่อขอความช่วยเหลือและประสานงานกับแผนกที่เกี่ยวข้อง
หลังจากดำเนินการระบุอันตรายและประเมินความเสี่ยงแล้ว เซ็นทรัล รีเทล ได้กำหนดลำดับชั้นของการควบคุม (Hierarchy of controls) เพื่อขจัดอันตรายอย่างเป็นระบบ โดยจัดลำดับความสำคัญของวิธีการที่มีประสิทธิภาพสูงสุด เริ่มจากการป้องกัน การทดแทน การควบคุมทางวิศวกรรมและการบริหาร และการจัดหาอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล เพื่อลดความเสี่ยงและอันตรายจากการทำงานของพนักงานและผู้รับเหมา
ตัวอย่างมาตรการที่ใช้แนวทางลำดับชั้นของการควบคุม (Hierarchy of controls) เพื่อลดอันตรายภายใน เซ็นทรัล รีเทล ที่อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บจากการทำงานและปัญหาด้านสุขภาพ มีดังต่อไปนี้
อันตรายจากการทำงาน (เหตุการณ์) | การบาดเจ็บและการเจ็บป่วย | มาตรการป้องกัน | มาตรการทดแทน | มาตรการควบคุมทางวิศวกรรมและการบริหาร | มาตรการอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล |
---|---|---|---|---|---|
ลื่นหกล้ม | ข้อเท้าแพลง |
|
|
|
สวมใส่รองเท้ากันลื่น |
การตกบันไดในห้องเก็บของ | แขนหัก | ใช้ระบบอัตโนมัติ | เปลี่ยนไปใช้ลิฟท์ยกของ | ติดตั้งราวกันตก | สวมใส่หมวกป้องกัน |
สิ่งของตกใส่ในห้องเก็บของ | บาดเจ็บที่ศีรษะ |
|
|
|
สวมรองเท้านิรภัย |
ยกของหนัก | บาดเจ็บที่หลังและขา | หลีกเลี่ยงการยกของหนักโดยไม่มีเครื่องช่วยพยุง |
|
|
|
ภาระงานหนัก | ความเครียดจากการทำงานและปัญหาสุขภาพจิต | ปรับภาระงานให้เหมาะสม | ส่งเสริมให้มีการบริหารจัดการการ ทำงานที่ยืดหยุ่น |
|
|
โรคติดเชื้อ | อาการป่วยจากภาวะโรคติดเชื้อ และเพิ่มความเสี่ยงในการแพร่เชื้อไปยังผู้อื่น |
|
การทำงานระยะไกล การเว้นระยะห่างทางสังคม |
|
|
การทำงานอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน | ออฟฟิศซินโดรม | จัดระเบียบพื้นที่ทำงานให้เป็นไปตามหลักกลศาสตร์ | ทำงานด้วยท่าทางที่เหมาะสมและเพิ่มการเคลื่อนไหวขณะทำงาน |
|
|
รถเข็นสินค้าชนลูกค้า | บาดเจ็บบริเวณเท้า ขา หรือลำตัว |
|
|
|
การสวมรองเท้าหัวปิดที่มีพื้นกันลื่นเพื่อช่วยป้องกันการบาดเจ็บที่เท้า |
การฝึกอบรมอาชีวอนามัยและความปลอดภัย
เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยมีความสำคัญในการขับเคลื่อน ดำเนินงาน และปรับปรุงระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย เซ็นทรัล รีเทล จึงได้คัดเลือกเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยที่มีคุณสมบัติและมีประสบการณ์ตรง รวมทั้งกำหนดให้เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยและพนักงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมอบรมมาตรฐาน ISO 45001:2018 ข้อกำหนดระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย การอบรมประจำปีเกี่ยวกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องในแต่ละประเทศที่ดำเนินการ และการฝึกอบรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องทุกปี
นอกจากนี้ ฝ่ายทรัพยากรบุคคล ฝ่ายป้องกันการสูญเสีย แต่ละหน่วยธุรกิจร่วมจัดฝึกอบรมด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยให้กับพนักงาน ทั้งการฝึกอบรมแบบออนไลน์และการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ โดยมีหลักสูตรข้อบังคับตามแนวทางของกฎหมาย โดยเฉพาะในประเทศอิตาลี และหลักสูตรสมัครใจต่าง ๆ เช่น การชี้บ่งอันตราย การประเมินความเสี่ยง คู่มือความปลอดภัยในการทำงาน และกรณีศึกษาในคลังสินค้า เป็นต้น รวมทั้งการฝึกอบรมเกี่ยวกับเทคนิคการขับขี่และการขับขี่อย่างปลอดภัยให้แก่พนักงานขับรถและพนักงานจัดส่งสินค้า นอกจากนี้ ฝ่ายทรัพยากรบุคคล ฝ่ายป้องกันการสูญเสีย ฝ่ายความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานของแต่ละหน่วยธุรกิจ มีหน้าที่รับผิดชอบในการรวบรวมข้อมูลด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยเพื่อนำมาปรับปรุงการฝึกอบรมให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
การส่งเสริมอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการดำเนินงาน
เซ็นทรัล รีเทล มีการอำนวยความสะดวกในการเข้าถึงบริการที่เกี่ยวข้องกับอาชีวอนามัยและความปลอดภัย และบริการด้านสุขภาพแก่พนักงานและผู้รับเหมา โดยจัดให้มีห้องปฐมพยาบาลในทุกสถานประกอบการ มีสวัสดิการในการเบิกค่ารักษาพยาบาลของพนักงาน อีกทั้งมีช่องทาง Help Center ในการให้คำแนะนำด้านสุขภาพจากพยาบาลวิชาชีพและสามารถประสานงานเพื่อขอความช่วยเหลือเพิ่มเติมได้
นอกจากนี้ หน่วยธุรกิจในประเทศอิตาลี ยังให้ความสำคัญด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน โดยให้บริการทางการแพทย์และการดูแลสุขภาพที่นอกเหนือจากอาชีวอนามัยและความปลอดภัยจากการทำงาน ซึ่งบริการและโปรแกรมส่งเสริมสุขภาพดังกล่าวออกแบบมาเพื่อเสริมสร้างสุขภาพกายและสุขภาพจิตของพนักงาน รวมทั้งมีการริเริ่มโครงการต่าง ๆ เช่น 'Safe Zone' การเสวนาเรื่องสุขภาพจิต ส่วนลดสมาชิกฟิตเนส การให้คำปรึกษาเกี่ยวกับมะเร็งเต้านม การตรวจสุขภาพผิวหนังโดยโรงพยาบาลขนาดใหญ่ ตลอดจนการเข้าถึงบริการทางการแพทย์จากโรงพยาบาลเอกชนและโรงพยาบาลคู่สัญญาประกันสุขภาพ
เซ็นทรัล รีเทล ยังให้ความสำคัญกับการเพิ่มมาตรการด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยให้ครอบคลุมคู่ค้าและผู้รับเหมา โดยมุ่งมั่นที่จะลดความเสี่ยงและสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัยสำหรับผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายผ่านการปฏิบัติตามระเบียบปฏิบัติด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยของ เซ็นทรัล รีเทล อย่างเคร่งครัด รวมถึงข้อกำหนดสำหรับคู่ค้าและผู้รับเหมาที่จะต้องปฏิบัติตามมาตรฐานการใช้อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) ที่เหมาะสม อีกทั้งเพื่อสร้างความปลอดภัยในการทำงานร่วมกัน เซ็นทรัล รีเทล มุ่งมั่นที่จะสร้างความยั่งยืนในสถานประกอบการควบคู่กับความเป็นอยู่ที่ดีของทุกคนที่เกี่ยวข้อง
นอกจากนี้ เซ็นทรัล รีเทล ได้พัฒนาระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานอย่างต่อเนื่องตามแนวทางดังต่อไปนี้
- ติดตามประกาศกฎระเบียบด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และประกาศแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสมเพื่อนำมาปรับใช้
- เปิดโอกาสให้พนักงานแสดงความคิดเห็นและเสนอแนะแนวทางใหม่ ๆ เพื่อพัฒนาความปลอดภัยในสถานประกอบการ
- ดำเนินการตรวจสอบเพื่อประเมินประสิทธิภาพของการกำกับดูแลด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานอย่างสม่ำเสมอ
- ทบทวนและปรับปรุงแนวทางการจัดการด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องตามกฎระเบียบที่มีการเปลี่ยนแปลงและแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด
การบริหารจัดการด้านความปลอดภัยฯ แก่คู่ค้าและผู้รับเหมา
เซ็นทรัล รีเทล ได้มีการนำหลักเกณฑ์และข้อกำหนดด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยมาใช้ในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างและการทำสัญญา เพื่อให้แน่ใจว่าคู่ค้าและผู้รับเหมาจะปฏิบัติตามมาตรฐานด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยของเซ็นทรัล รีเทล โดยในสัญญาสำหรับลงนามระหว่างบริษัทฯ และคู่ค้าหรือผู้รับเหมา จะระบุเกณฑ์ด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยไว้ในเอกสาร ตลอดจนมีการตรวจสอบใบอนุญาตและใบรับรองที่เกี่ยวข้องของคู่ค้าและผู้รับเหมา นอกจากนี้ ในกระบวนการคัดเลือกคู่ค้าและผู้รับเหมา จะมีการจัดลำดับความสำคัญและคัดเลือกคู่ค้าและผู้รับเหมาที่ให้ความสำคัญและมีระบบการจัดการด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย โดยรวมหลักเกณฑ์และข้อกำหนดต่าง ๆ เช่น การปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย การฝึกอบรมด้านความปลอดภัย และการจัดหาอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล เป็นต้น ทั้งนี้การนำเกณฑ์ด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย เข้ามาใช้ในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง สามารถลดความเสี่ยง ป้องกันอุบัติเหตุจากการทำงาน และสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นตลอดห่วงโซ่อุปทาน
โครงการสำคัญ
การอบรมปฐมพยาบาลเบื้องต้นและกู้ชีพฉุกเฉิน (AED)
ในปี 2567 บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ได้มีการจัดฝึกอบรมการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและการช่วยฟื้นคืนชีพ (AED) ให้แก่พนักงานจำนวน 1,940 คนจากกลุ่มธุรกิจ CFG, PWB และ CDG ทั่วประเทศ โดยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์แพทย์อาชีวเวชศาสตร์กรุงเทพมหานครและเจ้าหน้าที่เฉพาะทางได้ให้ความรู้และฝึกปฏิบัติจริงในการปฐมพยาบาล การทำ CPR และการใช้เครื่อง AED เพื่อให้ผู้เข้าร่วมมีความรู้และทักษะในการรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยเฉพาะภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน เพิ่มความมั่นใจในการช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ สร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัย และลดการสูญเสียชีวิต

การอบรม "สร้างสุขวัยทำงาน"
โครงการ "สร้างสุขวัยทำงาน" ถูกจัดขึ้นเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2567 ณ สำนักงานใหญ่บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล ณ เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ ซึ่งได้มีการดำเนินการร่วมกันระหว่าง บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด และศูนย์สุขภาพจิตที่ 4 กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข โดยมีผู้เข้าร่วมอบรม 22 คน โครงการนี้มุ่งเน้นให้ความรู้เกี่ยวกับเทคนิคการจัดการความเครียด การปรับจิตใจให้เข้มแข็ง และการสร้างความสุขในการทำงานและชีวิตประจำวัน ผู้เข้าร่วมยังได้ฝึกฝนวิธีการปล่อยวางและมองปัญหาในแง่บวก ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริง โครงการนี้สะท้อนถึงความใส่ใจขององค์กรต่อสุขภาพจิตของพนักงาน ซึ่งส่งผลดีต่อประสิทธิภาพการทำงานและความยั่งยืนขององค์กรในระยะยาว

การซ้อมแผนฉุกเฉิน 20 แผน
ในปี 2567 เซ็นทรัล รีเทล ได้ดำเนินการจัดทำ แผนฉุกเฉิน 20 แผน ให้ครอบคลุมทุกสาขาของห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล และโรบินสัน เพื่อให้ผู้บริหารและพนักงานมีความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยมุ่งเน้นการปกป้องชีวิตของลูกค้า พนักงาน และทรัพย์สินของบริษัทฯ รวมถึงการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง (Business Continuity) แผนฉุกเฉินครอบคลุมเหตุการณ์สำคัญ เช่น อพยพหนีไฟ (ซ้อมทุกปีตามกฎหมายกำหนด) กราดยิง (ซ้อมทุกปีตามนโยบายผู้บริหาร CRC) จลาจล วัตถุต้องสงสัย แก๊สรั่ว มิจฉาชีพลักทรัพย์ลูกค้า พบบัตรเครดิตปลอม บุคคลพยายามฆ่าตัวตาย บุคคลตกจากที่สูง บันไดเลื่อนหนีบกระโปรง/อวัยวะ ลิฟต์ค้าง แผ่นดินไหว น้ำท่วม ลูกค้าได้รับอุบัติเหตุ เด็กพลัดหลง ทะเลาะวิวาท ฝ้าร่วง สปริงเกอร์แตก และไฟฟ้าขัดข้อง โดยมีการประเมินผลจากคณะกรรมการซึ่งผู้เข้าร่วมประกอบด้วยผู้จัดการสาขา ผู้จัดการแผนก ผู้จัดการฝ่าย และพนักงานที่เกี่ยวข้องกับแผนฉุกเฉิน จะต้องทำคะแนนเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 80% แผนฉุกเฉินเหล่านี้ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริหาร ลูกค้า พนักงาน และผู้มีส่วนได้เสียทั้งหมดว่า เซ็นทรัล รีเทล มีมาตรฐานสูงในการป้องกันการหยุดชะงักทางธุรกิจ และสามารถรักษาความปลอดภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
